วันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2553

รปภ.ห้างเปิดปาก 19 พ.ค.เสื้อแดงบริสุทธิ์ แฉทหารยึดก่อนเผา-6 ศพวัดปทุม 5นายสิบจำนนสารภาพยิง

วันพฤหัสบดี, ธันวาคม 09, 2010

รปภ.ห้างเปิดปาก 19 พ.ค.เสื้อแดงบริสุทธิ์ แฉทหารยึดก่อนเผา-6 ศพวัดปทุม 5นายสิบจำนนสารภาพยิง


มี ทหารมาควบคุมพื้นที่ห้างและสั่งให้รปภ.ทุกคนติดบัตร จึงออกจากพื้นที่ได้ ส่วนภายในห้างตอนนั้น ไม่มีคนเสื้อแดงหรือประชาชนหลบอยู่ในห้างแต่อย่างใด และยังไม่มีไฟไหม้ ออกจากห้างได้ในเวลา17.00 วันที่ 19 พฤษภาคม-นายเวียน อยู่สังกัดรปภ.บริษัท อาร์ทีเอสการ์ด รปภ.ห้างเซ็นทรัลเวิลด์


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
ที่มา หนังสือพิมพ์ข่าวสด

หมายเหตุไทยอีนิวส์:หลังจากมีผู้นำภาพเหตุการณ์ชุดทหารปิดล้อม ไล่ยิงคนออกจากห้างเซ็นทรัลเวิลด์ แล้วมีการเผาห้างตามมาเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ทางface book ล่าสุดหนังสือพิมพ์ข่าวสด ได้ไปทำข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของห้างฯถึงเหตุการณ์ข้อเท็จจริงในวันนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นแน่..

- รปภ.เซ็นทรัลเวิลด์แฉวันเผา

ผู้ สื่อข่าวได้ไปที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ถ.ราชดำริ ภายหลังจากมีภาพเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค.2553 ที่แยกราชประสงค์ ภายในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ แพร่ในเฟซบุ๊ก ช่วงที่มีศอฉ.เข้าเคลียร์พื้นที่ภายในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ก่อนเกิดไฟไหม้ขึ้น ทั้งที่ศอฉ. เข้าไปในพื้นที่แล้ว เพื่อติดตามสอบถามเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว

นาย เอ (นามสมมติ) กล่าวว่าตนเข้าปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเช้า สังกัดบริษัท อาร์ทีเอสการ์ด จำกัด ซึ่งห้างเซ็นทรัลเวิลด์จะจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัยสองแห่ง ดูแลพื้นที่ โดยมีบริษัท อาร์ทีเอสการ์ด จำกัด ดูแลพื้นที่ด้านนอก ลานจอดรถ และรอบห้างทั้งหมด ส่วนบริษัท จีโฟร์เอส การ์ด จำกัด ดูแลเฉพาะส่วนภายในอาคารทั้งหมด

ในเวลาดังกล่าวตั้งแต่ช่วงเช้า ตนได้ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านหลังห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ช่วงเช้าก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอะไร แต่หลังจากเวลา 13.00 น. ได้ทราบข่าวว่าได้มีเจ้าหน้าที่เคลื่อนที่นำกำลังมาบริเวณถึงหน้าถนน บริเวณสยามพารากอน จากนั้นก็มีเสียงปืนและเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นระยะ ตนจึงให้รปภ.รอบบริเวณห้างลงไปอยู่ด้านล่างเพื่อความปลอดภัย โดยปิดล็อกประตูทางเข้าออกห้างทั้งหมด จนกระทั่ง เวลา 16.30 น. ได้มีกลุ่มทหารพร้อมอาวุธปืนบุกเข้ามาเคลียร์ในพื้นที่ห้างสั่งให้นอนหมอบ กับพื้นและสั่งให้รปภ.ทุกคนติดบัตร ก่อนปล่อยตัวออกไปจากพื้นที่ ซึ่งมีรปภ.บางคนไม่มีบัตรก็ไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ถูกควบคุมตัวแยกไว้

- ถูกทหารคุมตัวออกจากห้าง

นาย เวียน (นามสมมติ) กล่าวว่า อยู่สังกัดรปภ.บริษัท อาร์ทีเอสการ์ด ช่วงเกิดเหตุปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ถ.ราชดำริ ตนอยู่ประตูทางเข้าออกห้างช่วงเช้าไม่มีเหตุการณ์อะไร จนมาช่วงบ่ายสังเกตเห็นกลุ่มคนเสื้อแดงได้วิ่งแตกฮือกระจัดกระจายหนี เนื่องจากช่วงนั้นเริ่มมีเสียงระเบิดและปืนดังขึ้น ตนได้รับแจ้งทางวิทยุจากหัวหน้าให้ปิดประตูทางเข้าออกห้าง และให้หลบลงมาอยู่ด้านล่าง หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืน เสียงระเบิด เป็นระยะๆ อย่างต่อเนื่อง โดยไม่กล้าออกมาดูด้านบนว่ามีเหุตการณ์อะไรเกิดขึ้น

จนเวลา 17.00 น. จึงออกจากพื้นที่ได้ โดยมีทหารมาควบคุมพื้นที่ห้างและสั่งให้ทุกคนติดบัตร จึงออกจากพื้นที่ได้ ส่วนภายในห้างตอนนั้นไม่มีคนเสื้อแดงหรือประชาชนหลบอยู่ในห้างแต่อย่างใด และยังไม่มีไฟไหม้

ส่วน นายเทียน (นามสมมติ) รปภ.จีไฟร์เอส การ์ด กล่าวว่าช่วงเช้าตนปฏิบัติหน้าที่อยู่ชั้น 6 ของห้างเซ็นทรัลเวิลด์ โดยมองออกทางกระจกหน้าห้างสังเกตเห็นกลุ่มคนเสื้อแดงวิ่งหนีกันอลหม่าน และมีเสียงปืน เสียงระบิดดัง และได้รับคำสั่งจากหัวหน้าเช่นกันแจ้งให้ลงมาอยู่ข้างล่างจนเวลา 17.00 น. จึงออกจากพื้นที่ได้

และนายพง(นามสมมติ) รปภ.บริษัทจีไฟร์เอสการ์ด กล่าวเช่นกันว่าตนอยู่ชั้น 1 ก็ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าแจ้งให้ปิดประตูห้าง จากนั้นได้ยินเสียงปืนเสียงระเบิดดังถี่ขึ้นตลอด และต้องหลบลงมาอยู่ชั้นใต้ดินจนเวลา 16.00 น.ถึงออกจากพื้นที่เช่นกัน


-กรณี6ศพวัดปทุมฯจนท.รับยิงเข้าไปในวัดจริง

นาย จตุพร พรหมพันธ์ แถลงข่าว อ้างว่าเจ้าหน้าที่ทหารที่ใช้อาวุธปืน M16A2 (กระสุนปืนขนาด 5.56 ม.ม. เป็นชนิดเอ็ม 855 (M855) หัวกระสุนจะเป็นหัว "สีเขียว" มีรายชื่อดังนี้ 1.จ.ส.อ.ชื่อย่อ ส. รองหัวหน้าชุดปฏิบัติการ 2.ส.อ.ชื่อย่อ ภ. 3.ส.อ.ชื่อย่อ ก. 4.ส.อ.ชื่อย่อ ช. และ 5.ส.อ.ชื่อย่อ ว.

ทั้งห้านายรับว่าได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงเข้าไปในวัดปทุมวนารามจริง และรับว่าอาวุธประจำกายของตนที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งของผู้ บังคับบัญชา มีการขออนุมัติเบิกอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน จากหน่วยรบแห่งหนึ่ง ซึ่งได้แก่ เอ็ม16เอ2 (M16A2) ใช้กระสุนขนาด .223 (5.56 ม.ม.) เป็นกระสุนปืนเอ็ม 855 (M855)

ประมวลเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ได้ใช้อาวุธปืนยิงประชาชนในวัดปทุมฯ

1.สถาน ที่ยิงเป็นเขตอภัยทาน พยานบุคคลจากการสอบสวนมีพยานหลายสิบปากที่เห็นเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนยิง เข้ามาในบริเวณวัด แม้กระทั่งยิงเข้าไปในเต็นท์ พยาบาลขณะที่มีการยุติการชุมนุมแล้ว บริเวณวัดปทุมวนารามถือเป็น "เขตอภัยทาน" ที่มีการร้องขอต่อเจ้าอาวาส เพื่ออาศัยวัดเป็นที่คุ้มครองชีวิต เพราะไม่คิดว่าใครจะมาฆ่ากันในวัด ซึ่งมีหลักฐานหนังสือการขอชีวิตโดยขอความอนุ เคราะห์ต่อท่านเจ้าอาวาสเพื่ออาศัยวัดเป็นบริเวณที่หลบภัย

2.มีหลัก ฐานจากพยานบุคคลหลายปากยืนยันว่า เวลา 17.00 น.เศษ มีเสียงปืนดังติดต่อกันหลายนัดมาจากสถานีรถไฟฟ้าสยาม อันเป็นที่ตั้งของหน่วยงานหนึ่งในกทม.มีผู้ได้รับบาดเจ็บ มีผู้ถ่ายภาพไว้ มีการเข้าช่วยเหลือบุคคลที่บาดเจ็บได้แก่ นายอัฐชัย ชุมจันทร์ ได้ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา มีผู้ถ่ายภาพไว้เวลา 17.50 น.วันที่ 19 พ.ค. 53

ขณะที่อาสาพยาบาลช่วยเหลือนายอัฐชัย ชุมจันทร์ ก็ได้มีการถ่ายภาพไว้ซึ่งในภาพมีนายมงคล เข็มทอง อาสาป่อเต็กตึ๊ง ได้เข้ามาช่วยเหลือนายอัฐชัย แต่ช่วยเหลือได้ไม่นาน นายมงคล เข็มทอง ก็ถูกยิงตายในขณะที่กำลังช่วยเหลือนายอัฐชัย และต่อมา น.ส.กมนเกด อัคฮาด ก็ได้ถูกกระสุนปืนถึงแก่ความตายในเต็นท์พยาบาล ขณะที่ น.ส.กมนเกด ถูกกระสุน นายอัครเดช ขันแก้ว อาสาพยาบาลอีกคน ก็ได้เข้าไปช่วยก็ได้ถูกยิงตายในเต็นท์พยาบาลเช่นเดียวกัน

******
ภาพชุดที่เผยแพร่ทางเฟซบุ๊ค
รูปที่ 1 วันที่ 19 พ.ค. 53 หลังเสื้อแดงสลายการชุมนุมราชประสงค์ ทหารคุมพื้นที่ได้หมด ในเวลา 14.26 มีคนเดินเข้ามาในห้างฯ (เป็นเจ้าของร้านค้าในเวิร์ลเทรด มาดูร้าน)

รูปที่ 2 คนที่เดินเข้ามาโดนยิงสกัดที่ขา

รูปที่ 3 มีเพื่อนเข้ามาช่วยคนโดนยิงเจ็บออกไป

รูปที่4 ขณะที่คนที่ยืนดูอยู่ก็โดนยิงไล่


รูปที่5 อยู่ข้างในไม่ได้ โดนยิงไล่ ต้องรีบออกมา


รูปที่ 6 โดนยิงด้วยลูกซองเม็ดเล็ก ไม่เจตนาฆ่า แต่ไล่ให้ออกไปจากห้าง


รูปที่7-8 ส่วนข้างนอกก็มีการยิงสกัด เพื่อไม่ให้รปภ.เข้าไปรักษาความปลอดภัยในห้างได้


รูปที่ 8เอาทหาร ศอฉ.ตรึงกำลังรอบห้างฯ

รูปที่ 9-ในที่สุดรปภ.และพนักงานต้องเดินทางออกอย่างเดียว

จะสังเกตเห็นว่ามีทหารศอฉ.ปะปนอยู่กับพนักงานห้าง(เหน็บวิทยุสื่อสารสีแดง)


รูปที่10-มียิงออกมาข้างนอก


รูปที่11 -เห็นคนยิงบนสถานีรถไฟฟ้า ทหารกระหรี่แน่ๆ ที่ยิงประชาชนได้

รูป12 -เมื่อเคลียร์หมด คนในให้ออก คนนอกห้ามเข้าแล้วก็ เผา!


รูป13-ศอฉ.ควบคุมพื้นที่ได้หมด ในระหว่างนั้น


รูปที่ 14-หลัง เหตุการณ์เพลิงไหม้ห้าง ทหารตำรวจได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ในวันที่ 21 พ.ค.(ข้อสังเกตคือพวกเหน็บวิทยุสื่อสารสีแดง แบบเดียวกับตอนไล่คนออกจากห้างก่อนเผา)



รูปที่15-พบศพสุดท้าย ตายเนื่องจากขาดอากาศหายใจ

รูปที่ 16เป็นนักศึกษาจากราษีไศล ศรีสะเกษ


******ข่าวเกี่ยวเนื่อง****



เทเวศฯยึกยักไม่จ่ายค่าประกัน3หมื่นล้านCTW ท้าอยากได้ให้ฟ้องเอา อ้างห้างโดนผู้ก่อการร้ายเผา

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์

เซ็นทรัล เวิลด์ส่อแววแห้วเคลมประกัน 3 หมื่นล้าน "เทเวศประกันภัย"บริษัทที่รับทำประกันชี้ฝรั่งที่เป็นบริษัทรับประกันภัยต่อ อ้างเข้าข่ายก่อการร้าย แนะหากอยากได้ให้ฟ้องร้องศาลตัดสิน กินเวลานาน5-7ปี แต่ยินดีจ่ายในส่วนประกันภัยก่อการร้าย3.3พันล้าน แต่เสียหายจริงอ้างไม่เกิน2พันล้านจะจ่ายปีหน้า

มติชนออนไลน์ รายงาน ว่า กรณีการชุมนุมม็อบเสื้อแดงเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งมีบริษัท เทเวศประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับประกันภัยความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (Industrial All Risk : IAR) ให้กับบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ทุนประกันเกือบ 3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นเวิลด์ทุนประกัน 1.3 หมื่นล้านบาท และรับประกันก่อการร้ายกับห้างสรรพสินค้าเซนมูลค่า 3.3 พันล้านบาท

ขณะที่บริษัท ไทยเศรษฐกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) รับประกันภัยก่อการร้าย ทุนประกัน 3.5 พันล้านบาท

นาย อนันต์ เกษเกษมสุข กรรมการผู้จัดการ เทเวศประกันภัย กล่าวว่า ล่าสุด บริษัทรับประกันภัยต่อต่างประเทศ (รีอินชัวเรอส์) มีจุดยืนว่า ความเสียหายของเซ็นทรัลเวิลด์ เกิดจากภัยก่อการร้าย ดังนั้น เซ็นทรัลอาจจะไม่ได้รับความคุ้มครองจากการทำประกันภัยความเสี่ยงภัย ทรัพย์สิน เนื่องจากกรมธรรม์ประเภทนี้จะคุ้มครองภัยที่เกิดจากการโจรกรรม หรือจลาจล และสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินผู้เอาประกันภัย รวมถึงความสูญเสียจากการหยุดชะงักของธุรกิจ (Business Interruption) จนทำให้ผู้เอาประกันภัยต้องสูญเสียรายได้ แต่ไม่รวมภัยจากการก่อการร้าย ซึ่งมีความรุนแรงในระดับที่สูงกว่า

"ที่ บริษัทคาดว่าจะไม่คุ้มครอง เพราะรีอินชัวเรอส์เข้ามาพิสูจน์หลักฐานต่างๆ อย่างละเอียดแล้วพบว่าเข้าข่ายก่อการร้ายจริงๆ โดยดูจากบริบทรอบข้าง ไม่ได้ยึดคำประกาศของรัฐบาลเป็นหลัก นอกจากนี้ ตามเงื่อนไขของประกัน IAR จะมีหมายเหตุว่า ไม่คุ้มครองภัยที่เกิดจากการก่อการร้าย เพราะเป็นภัยเฉพาะเจาะจง โดยยึดจากตัวอย่างเหตุการณ์วินาศกรรม 11 กันยายน 2544 หรือ 9/11 ในสหรัฐอเมริกา เป็นต้นมา และเหตุการณ์นี้เขาก็สรุปว่ารุนเเรงกว่าจลาจล"นายอนันต์กล่าว

นาย อนันต์กล่าวว่า หากเซ็นทรัลพัฒนาเห็นว่า น่าจะมีข้อสรุปที่ดีกว่า และยังรู้สึกสงสัยกับจุดยืนของรีอินชัวเรอส์ ประกอบกับเห็นว่าค่าเสียหายที่จะได้รับจากการประกันก่อการร้ายต่ำกว่าค่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าน่าจะไม่ต่ำกว่า 5-6 พันล้านบาท เซ็นทรัลก็อาจนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการศาลได้ โดยให้ศาลฎีกาเป็นผู้พิจารณาคดีความ ซึ่งอาจใช้เวลา 5-7 ปี ทั้งนี้ เห็นว่าทางรีอินชัวเรอส์น่าจะพร้อมชี้แจงกับผลสรุปดังกล่าว

นาย อนันต์กล่าวว่า ในส่วนของห้างสรรพสินค้าเซนที่ทำประกันก่อการร้ายมูลค่า 3.3 พันล้านบาท ซึ่งผลจากการประเมินความเสียหายคืบหน้าไปกว่า 95% ในเบื้องต้นพบว่า มูลค่าความเสียหายกว่า 2 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่เกินทุนประกัน โดยบริษัทจะรอข้อสรุปที่เหลือก่อนจ่ายค่าสินไหมทดแทน ซึ่งคาดว่าจะสามารถจ่ายได้ไม่เกินไตรมาส 1 ปีหน้า

เวบไซต์ของเทเวศประกันภัยเปิดเผยว่า กลุ่มผู้ถือหุ้น ของบริษัทประกอบด้วย

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 27,600 หุ้น คิดเป็น 0.23%
สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 11,787,261 หุ้น คิดเป็น 98.227%
ผู้ถือหุ้นอื่นๆ 185,139 หุ้น คิดเป็น 1.543%

รวม 12,000,000 หุ้น คิดเป็น 100.00%


เทเวศประกันภัยระบุไว้ในเวบไซต์ว่า เป็นบริษัทของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ฯ

ส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทไทยเศรษฐกิจประกันภัย เวบไซต์ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรายงานว่า ประกอบด้วย

1. บริษัท สยามแร่และน้ำมัน จำกัด 8,906,660 หุ้น 28.69 %

2. นางนงลักษณ์ วิสุทธิผล 2,729,675 หุ้น 8.79 %

3. บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย 2,212,750 หุ้น 7.13 %

4. บริษัท สุทโทเทศ จำกัด 1,661,358 หุ้น 5.35 %

5. บริษัท ศรีสตรี จำกัด 1,559,280 หุ้น 5.02 %




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น